Pages

Monday, October 31, 2011

๑๓๗. วันนี้เป็นวัน "ฮาโลวีน"



...

วันนี้เป็นวัน "ฮาโลวีน"

ผมเพิ่งจะนึกได้เมื่อล่วงเลยเวลาเที่ยงคืนมาแล้ว หลังจากที่เห็นรุ่นน้องและใครอีกหลายคนตั้งสถานะในเครือข่ายสังคมว่า “Trick or Treat” – วลีที่ชาวตะวันตกคุ้นเคยกันดีในเทศกาลวันปลดปล่อยวิญญาณ และคงเป็นที่คุ้นเคยของคนไทยส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน

ในคืนวันฮาโลวีน เด็กๆ ชาวตะวันตกจะชักชวนกันแต่งกายแฟนซี เป็นโครงกระดูกเดินได้บ้าง เป็นภูตผีปีศาจบ้าง เที่ยวหลอกหลอนไปตามบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียง เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูรับ เด็กๆ จะถามว่า “Trick or Treat – จะให้หลอกหรือเลี้ยง”

เมื่อเจอเด็กผีหลอก (trick) เข้าให้อย่างนี้ เจ้าของบ้านก็มักจะยอมแพ้ ยอมเลี้ยง (treat) ขนมหรือท็อฟฟี่แก่เด็กๆ ไปตามระเบียบ

ผมยอมรับว่าไม่เคยรู้จักวลี “Trick or Treat” มาก่อนเลย จนกระทั่งอ่านพบในหนังสือไทยศึกษา บทที่ว่าด้วยประเพณีพิธีกรรมไทยที่เกี่ยวเนื่องกับคริสตศาสนา ซึ่งนั่นก็เมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมานี้เอง

พอรู้ว่าเด็กๆ ใช้วลีนี้กันเป็นธรรมดา ผมคงต้องกลับมาพิจารณาตนเองเสียแล้ว

...


...

วันฮาโลวีน (Halloween) หรือวันปลดปล่อยวิญญาณ แต่ดั้งเดิมไม่ใช่พิธีกรรมของชาวคริสต์ บางตำนานกล่าวว่าเป็นวันฉลองปีใหม่ของชาวเซลต์ (Celt) หรือเป็นงานฉลองเทพเจ้าแห่งความตายชื่อ ชาเมน (Samhain) ผู้ปลดปล่อยวิญญาณให้กลับคืนสู่บ้านเกิด โดยอาศัยจังหวะรอยต่อระหว่างวันที่ ๓๑ ตุลาคม กับ ๑ พฤศจิกายน ซึ่งเชื่อกันว่าเส้นกั้นเขตแดนระหว่างคนเป็นกับคนตายเปราะบางที่สุด

วิญญาณส่วนใหญ่คงอยากกลับมาเยี่ยมบ้าน เยี่ยมครอบครัวเดิมของตน แต่มีวิญญาณบางตนที่ไม่ทำอย่างนั้น กลับคอยล่องลอยหลอกหลอน เข้าสิงร่างผู้คนเพื่อหวังจะฟื้นคืนชีพ

บรรยากาศของวันฮาโลวีนจึงไม่ใช่วันพบญาติ แต่กลายเป็นวันอันตรายที่ทุกคนต่างพากันหวาดกลัว และทำทุกวิถีทางที่จะป้องกันไม่ให้วิญญาณร้ายเข้าสิงร่างของตน ส่วนใครที่ต้องสงสัยว่าถูกวิญญาณสิงเข้าให้แล้ว จะถูกพิพากษาและเผาทั้งเป็น

ช่วงเปลี่ยนผ่านจากพิธีกรรมนอกรีตสู่พิธีกรรมทางคริสตศาสนา คงจะอยู่ในสมัยของพระสันตะปาปากรีกอรีที่ ๔ (Pope Gregory IV) เมื่อพระองค์ทรงประกาศให้วันที่ ๑ พฤศจิกายน เป็นวันฉลองนักบุญ (All Saints’ Day หรือ All Hallows’ Day) แต่พิธีกรรมในคืนวันที่ ๓๑ ตุลาคมก็ยังคงสืบเนื่องต่อมา เพียงแต่ปรับปรุงรายละเอียดเพื่อให้สามารถเข้ารีตได้โดยสนิทใจ

...


...

โดยเนื้อความ พิธีกรรมในวันฮาโลวีนจัดขึ้นเพื่อป้องกันวิญญาณร้ายไม่ให้ทำร้ายผู้คน แต่โดยนัยยะแล้วพิธีกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลเก็บเกี่ยว (Harvest) อาศัยความเชื่อเรื่องวิญญาณร้ายเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงสิ่งที่จะมาทำลายพืชผลและสัตว์เลี้ยง การกำจัดวิญญาณร้ายจึงไม่ใช่เพียงเพื่อความสงบสุขของผู้คนเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารไปพร้อมกัน

คนที่ต้องสงสัยว่าถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง มักจะเป็นคนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปจากมาตรฐานของสังคม ทำนองเดียวกับความเชื่อในเรื่อง “ปอบ” ของชาวไท-ลาว ซึ่งต้องถูกตัดสินโทษตามกฏเกณฑ์อันเป็นที่ยอมรับร่วมกัน

กล่าวให้ชัดเจนมากขึ้น วันฮาโลวีนคือวันขับไล่ความอัปมงคลต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน ซึ่งอาจส่งผลต่อวิถีชีวิต เพื่อธำรงรักษาความเป็นปกติสุขของชุมชน

พิธีกรรมนี้ไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ แต่มีผลต่อความเชื่อมั่นของคนในชุมชน ตามความหมายของพิธีกรรมที่เน้นคุณค่าทางจิตใจ ถึงแม้ไม่อาจพิสูจน์ให้เห็นผ่านการทดลอง แต่เมื่อใจเชื่อมั่นแล้ว ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามที่ใจคิด

...


...

ผ่านเวลามานานนับร้อยนับพันปี พิธีกรรมในคืนวันฮาโลวีนย่อมเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่นั่นเป็นเพียงเปลือกหุ้มภายนอกเท่านั้น สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือเนื้อแท้ คือนัยยะที่แฝงอยู่ในตัวพิธีกรรมนั้น ที่ยังคงรอให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจ แล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์

สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทั้งความขัดแย้ง แตกแยก และสิ่งต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามความต้องการ ไม่ต่างอะไรกับวิญญาณร้ายที่คอยรบกวนชีวิตเรา คอยจดจ้องหาโอกาสเข้าสิงร่างของเราเมื่อเราอ่อนแอ นำพาชีวิตเราให้พบเจอวิบัติภัยนานาประการ

แม้ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเหล่าวิญญาณร้าย แต่สำคัญที่เราตระหนักรู้ถึงความชั่วร้ายนั้นแล้วหาทางป้องกัน ด้วยการฝึกฝนจิตใจให้หนักแน่นเข้มแข็ง มีสติพร้อมเผชิญสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้ใจหวั่นไหว ไม่ปล่อยให้วิญญาณร้ายแฝงเร้นกายเข้ามาในตัวของเราได้

ท่ามกลางสถานการณ์ที่สับสนและเปราะบาง สติและวิจารณญาณอันสมบูรณ์เท่านั้นที่จะพาให้เรารอดพ้นจากภัยพิบัติ รอดพ้นจากเหล่าวิญญาณร้าย สองสิ่งนี้มีอยู่แล้วในตัวของทุกคน ขอเพียงตระหนักรู้และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

...


...

ใจคือตัวกำหนดความเป็นไปของสิ่งรอบกาย เราไม่ได้รับรู้สิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง แต่รับรู้ไปตามที่เราอยากจะให้เป็น เมื่อเราฝึกใจของเราให้มีความเชื่อมั่นในทางที่ดีตั้งแต่ต้น ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ย่อมง่ายอย่างที่ใจคิด โดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้ลำบากเลย

ณ ตอนนี้ สูดหายใจลึกๆ แล้วบอกกับตัวเองว่า เมื่อผ่านพ้นคืนวันฮาโลวีนนี้ไปแล้ว เราจะร่วมกันป้องกันสิ่งชั่วร้าย ร่วมกันแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ครอบครัวของเรา ชุมชนและสังคมของเรา ให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติสุขในเร็ววัน

ทุกอย่างเริ่มต้นที่ “ใจ” ของเราเอง

...


ของขวัญจาก ผศ. อัมพาพร พรคุณธรรม
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล

...

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

...

เพียงถ้อยคำธรรมดา ที่กลั่นกรองออกมาจากหัวใจ
ขอบคุณสำหรับทุก comment ครับ


No comments:

Post a Comment